Author: The Research Insights
ภูมิทัศน์ของระบบอัตโนมัติทางกระบวนการหุ่นยนต์ (RPA) กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว สะท้อนแนวโน้มที่กว้างขึ้นของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่างๆ ตามรายงานล่าสุดจาก The Research Insights ตลาด RPA ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจาก 5.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 เป็น 46.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2034 โดยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 23.13% การเติบโตนี้ได้รับการสนับสนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับประสิทธิภาพและผลผลิตในองค์กรต่างๆ ซึ่งต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
เทคโนโลยี RPA เกี่ยวข้องกับการใช้หุ่นยนต์ซอฟต์แวร์หรือ 'บอท' เพื่ออัตโนมัติภารกิจประจำและซ้ำซากที่เคยถูกดำเนินการโดยมนุษย์ ซึ่งช่วยให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมเชิงกลยุทธ์มากขึ้น ทำให้องค์กรสามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ อุตสาหกรรมที่นำเทคโนโลยี RPA มาใช้มากที่สุด ได้แก่ การเงิน สุขภาพ การค้าปลีก และการบริการลูกค้า
รายงานจาก The Research Insights ระบุแนวโน้มการเติบโตอย่างมากสำหรับตลาด RPA
หนึ่งในตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด RPA คือความสามารถของเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยการอัตโนมัติภารกิจที่น่าเบื่อ เช่น การป้อนข้อมูล การดำเนินงานใบแจ้งหนี้ และการสอบถามลูกค้า องค์กรจึงสามารถบรรลุความแม่นยำที่สูงขึ้นและเวลาการดำเนินการที่รวดเร็วขึ้น เมื่อบริษัทพยายามรักษาความสามารถในการแข่งขัน การลงทุนใน RPA จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการปรับปรุงกระบวนการภายใน
นอกจากนี้ ความต้องการใช้ RPA ยังได้รับแรงหนุนจากการบูรณาการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเสริมความสามารถของ RPA โดยทำให้บอทสามารถเรียนรู้และปรับตัวตามเวลา ทำให้สามารถอัตโนมัติภารกิจที่ซับซ้อนมากขึ้น การบูรณาการ AI กับ RPA นี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจขององค์กร
ยิ่งไปกว่านั้น การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีมากขึ้นในธุรกิจต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องปรับตัวสู่สภาพแวดล้อมทำงานระยะไกล เมื่อบริษัทต้องรับมือกับความยุ่งยากในระบบ RPA กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการดำเนินงานโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์อย่างมาก การระบาดครั้งนี้เน้นย้ำความสำคัญของความยืดหยุ่นด้านเทคโนโลยี ซึ่งโซลูชัน RPA สามารถให้ได้
ในฐานะที่บริษัทต่างๆ เริ่มพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ความต้องการซอฟต์แวร์ที่สามารถบูรณาการได้อย่างราบรื่นกับระบบต่างๆ จึงมีความสำคัญมากขึ้น ระบบ RPA ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและเข้ากันได้กับระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถนำ RPA ไปใช้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเดิม
การลงทุนใน RPA ก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เนื่องจากต้นทุนของโซลูชัน RPA ลดลง ทำให้ SMEs สามารถใช้ประโยชน์จากอัตโนมัติได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง การเข้าถึงเทคโนโลยีนี้อย่างเท่าเทียมกันน่าจะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ตลาดเติบโตมากขึ้น เพราะบริษัทต่างๆ เริ่มเข้าใจและรับรู้ถึงประโยชน์ของ RPA
เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ตลาดในอเมริกาเหนือเป็นผู้นำเนื่องจากเทคโนโลยีอัตโนมัติถูกรับไว้และมีผู้ให้บริการโซลูชันจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเติบโตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเกิดขึ้นเช่นกัน เนื่องจากตลาดเกิดใหม่เริ่มลงทุนในกระบวนการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล
สรุป ตลาด RPA อยู่ในแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างมากในทศวรรษหน้า เนื่องจากองค์กรต่างๆ เริ่มรับรู้ถึงประโยชน์ด้านประสิทธิภาพและการประหยัดต้นทุนจากการใช้งานเทคโนโลยีนี้ การบูรณาการของ RPA กับ AI และความสนใจที่เพิ่มขึ้นในกลุ่ม SMEs จะมีผลสนับสนุนการเติบโตของตลาดอย่างแข็งแกร่งในอนาคต